1.ยุงบินด้วยความเร็ว 5 ไมล์ต่อชั่วโมง...
2.ผีเสื้อบินด้วยความเร็ว 20 ไมล์ต่อชั่วโมง...
3.เส้นผมคนรับน้ำหนักได้ 3 กิโลกรัม...
4.เสียงกรนที่ดังที่สุดดังถึง 87.5 เดซิเบลล์
5.พอล แมคคาร์ที เป็นเจ้าของลิขสิทธิเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ ถ้าจะนำมาออกรายการต้องซื้อลิขสิทธิก่อน...
6.เหรียญทองโอลิมปิกต้องมีแร่เงินผสมอยู่ 92.5 เปอร์เซนต์...
7.หอเอนเมืองปิซาเอนไปทางใต้...
8.กษัตริย์หลุยส์ที่ 14 อาบน้ำทั้งหมด 3ครั้งในชีวิต...
9.ฮิตเลอร์แสกผมข้างซ้าย...
10.ผู้หญิงที่เกาะฮาวายที่ทัดดอกไม้ที่หูข้างซ้าย แสดงว่ามีเจ้าของแล้ว...
11.เราไม่สามารถฆ่าตัวตายด้วยการกลั้นหายใจได้...
12.ผู้หญิง 3.9 เปอร์เซนต์ไม่ชอบใส่กางเกงใน...
13.ฮิปโปผายลมทางปาก...
14.ประเทศซาอุดิอราเบียไม่มีแม่น้ำ...
15.กังหันทั้งโลกหมุนทวนเข็มนาฬิกา ยกเว้นที่ไอร์แลนด์...
16.เด็กนักเรียนอายุ15 ปีขึ้นไปในบังคลาเทศจะถูกจับเข้าคุกถ้า"โกงข้อสอบ"...
17.ปลาที่อาศัยในน้ำลึกเกิน 800 เมตร จะไม่มีตา...
18.ผมคนเราจะร่วงประมาณ 200 เส้นต่อวัน...
19.ตัว"โอ"เป็นสระที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ...
20.คนพูดประมาณ 120 คำต่อนาที
21.ฝ่ามือและฝ่าเท้าของคนเราไม่สามารถไหม้ได้...
22.อูฐสามารถหมุนหัว 180 องศา
23.ถ้าปลาไหลไฟฟ้าอยู่ในน้ำเค็ม จะถูกช็อตตาย...
24.ขั้นบันไดในไทยจะเป็นเลขคี่...
25.เจ้าฟ้าชายชาลส์ชอบสะสมฝาโถส้วม...
26.คนมีโอกาสตายจากผึ้งต่อยมากกว่างูกัด...
27.ประเทศวาติกันมีประชากรประมาณ 1000 คน
28.เมื่อคุณจาม หัวใจคุณจะหยุดเต้นเสี้ยววินาที
29.มันเปนไปมะได้อ่ะคับ ถ้าคุณจะจามโดยไม่หลับตา
30.เดิมโคคาโคล่าเป็นสีเขียว
31.ชื่อที่โหลที่สุดในโลกคือ Mohammed
32.กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายคือลิ้น
33.แต่ละโพหลังไพ่ แสดงถึงกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่จากประวัติศาสตร์ - โพดำกษัตริย์เดวิด - ดอกจิก อเล็กซานเดอร์มหาราช - โพหัวใจ ชาร์ล เลอ มาญ - ข้าวหลามตัด จูเลียส ซีซาร์
34. อนุสาวรีย์ของใครสักคนที่อยู่บนหลังม้า และม้ายกสองขาขึ้นบนอากาศแปลว่าคนนั้นตายในสงคราม
35.ถ้าม้ายกขาข้าเดียวแปลว่า เขาบาดเจ็บในสงคราม และตายจากการบาดเจ็บนั้น
วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552
เตือนfacebookเสี่ยงต่อชีวิต
ประธานาธิบดี โอบามา เตือนวัยรุ่นอเมริกัน โพสต์เรื่องเหลวไหลในเฟซบุ๊ก เสี่ยงได้รับผลกระทบต่อชีวิตในอนาคต
ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ ได้กล่าวเตือนบรรดาวัยรุ่นอเมริกัน ในระหว่างการเข้าร่วมกิจกรรมตอบคำถามกับนักเรียนอายุ 14-15 ปี วานนี้ว่า การใส่ข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป ในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมบนอินเทอร์เน็ต อาจจะเกิดอันตราย และส่งผลกระทบต่อชีวิตในอนาคต
“ผมอยากให้พวกคุณระมัดระวังตัวในการเขียนข้อความลงเฟซบุ๊ก เพราะในโลกแห่งยูทูบ อะไรก็ตามที่พวกคุณได้ทำไว้ จะถูกดึงขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้งเมื่อไรก็ได้ในอนาคต” โอบามา กล่าว
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังย้ำด้วยว่า ความผิดพลาด และเรื่องเหลวไหลในอดีตที่ก่อไว้เมื่อยังเด็ก จะมีผลกระทบโดยตรงเมื่อไปสมัครงาน เมื่อมีใครบางคนได้ตรวจพบข้อมูลเหล่านั้น
ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐมีขึ้นหลังจากที่มีผลการศึกษาล่าสุดแนะนำว่า บรรดานายจ้างทั่วสหรัฐกำลังใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ก และมายสเปซ เข้าไปตรวจสอบภูมิหลังของผู้สมัครงานในบริษัทของตนมากขึ้น
ในผลการสำรวจเมื่อเดือนมิ.ย. โดยเว็บไซต์เพื่อการสร้างงานในสหรัฐ พบว่า นายจ้างราว 45% ได้เข้าไปในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก เพื่อตรวจสอบผู้สมัครงาน
ขณะที่นายจ้างอีกราว 35% ของผลการสำรวจ เปิดเผยว่า ข้อความและเนื้อหาในเว็บไซต์ที่พบ มีส่วนช่วยใหเกิดการปฏิเสธไม่รับบุคคลเข้าทำงาน ตัวอย่างเช่นการโพสต์รูปภาพที่ไม่เหมาะสม ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการใช้สารเสพติด หรือดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่การพูดนินทาอย่างหยาบคายต่อบรรดานายจ้าง ผู้ร่วมงาน และลูกค้าก่อนหน้านี้
ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ ได้กล่าวเตือนบรรดาวัยรุ่นอเมริกัน ในระหว่างการเข้าร่วมกิจกรรมตอบคำถามกับนักเรียนอายุ 14-15 ปี วานนี้ว่า การใส่ข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป ในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมบนอินเทอร์เน็ต อาจจะเกิดอันตราย และส่งผลกระทบต่อชีวิตในอนาคต
“ผมอยากให้พวกคุณระมัดระวังตัวในการเขียนข้อความลงเฟซบุ๊ก เพราะในโลกแห่งยูทูบ อะไรก็ตามที่พวกคุณได้ทำไว้ จะถูกดึงขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้งเมื่อไรก็ได้ในอนาคต” โอบามา กล่าว
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังย้ำด้วยว่า ความผิดพลาด และเรื่องเหลวไหลในอดีตที่ก่อไว้เมื่อยังเด็ก จะมีผลกระทบโดยตรงเมื่อไปสมัครงาน เมื่อมีใครบางคนได้ตรวจพบข้อมูลเหล่านั้น
ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐมีขึ้นหลังจากที่มีผลการศึกษาล่าสุดแนะนำว่า บรรดานายจ้างทั่วสหรัฐกำลังใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ก และมายสเปซ เข้าไปตรวจสอบภูมิหลังของผู้สมัครงานในบริษัทของตนมากขึ้น
ในผลการสำรวจเมื่อเดือนมิ.ย. โดยเว็บไซต์เพื่อการสร้างงานในสหรัฐ พบว่า นายจ้างราว 45% ได้เข้าไปในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก เพื่อตรวจสอบผู้สมัครงาน
ขณะที่นายจ้างอีกราว 35% ของผลการสำรวจ เปิดเผยว่า ข้อความและเนื้อหาในเว็บไซต์ที่พบ มีส่วนช่วยใหเกิดการปฏิเสธไม่รับบุคคลเข้าทำงาน ตัวอย่างเช่นการโพสต์รูปภาพที่ไม่เหมาะสม ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการใช้สารเสพติด หรือดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่การพูดนินทาอย่างหยาบคายต่อบรรดานายจ้าง ผู้ร่วมงาน และลูกค้าก่อนหน้านี้
สิ่งดีๆที่มากกว่า "เพื่อน"
สิ่งดีๆที่มากกว่า "เพื่อน"ทั้งๆที่ บางคน อาจจะมองเห็นและมองไม่เห็น
แล้วคุณละ เห็นว่าเพื่อนของคุณเป็นคนแบบไหน
มีอะไรที่ค้างคาใจก็ควรที่จะบอกกันออกไปตรงๆ
แล้วคุณละ เห็นว่าเพื่อนของคุณเป็นคนแบบไหน
มีอะไรที่ค้างคาใจก็ควรที่จะบอกกันออกไปตรงๆ
ก่อนที่คุณอาจจะเสีย "เพื่อน" ที่คุณรักไปตลอดกาลด้วย อารมณ์ แค่น้อยใจ
แล้วกับคุณละ เพื่อนสำคัญมากมายขนาดไหน
เคยตอบคำถามจากใจตัวเอง หรือเปล่าหาคำตอบให้ได้
ก่อนที่ คนๆหนึ่งอาจจะก้าวหายไปจากชีวิตคุณ
อาหาร 10 อย่าง ที่ไม่ควรกินมากเกิน
เป็นเคล็ดลับการดูแลสุขภาพตามศาสตร์แพทย์แผนจีน ได้แก่
1. ไข่เยี่ยวม้า ถ้ากินมากและบ่อย อาจเกิดพิษจากสารตะกั่ว..การดูดซึมแคลเซี่ยม ลด น้อยลง ขาดแคลเซี่ยม ทำให้กระดูกผุได้
2. ปาท่องโก๋ ใช้สารส้ม ซึ่งมีตะกั่ว เป็นพิษต่อเซลล์สมอง ความจำเสื่อม คอ แห้ง เจ็บคอ
3. เนื้อสัตว์ย่าง เกิดสารเบนโซไพริน ก่อมะเร็ง
4. ผักดอง เกิดการสะสมเกลือโซเดียม หัวใจทำงานหนัก เกิดความดันเลือดสูงเป็นโรคหัวใจง่าย
5. ตับหมู 1 กก. มีคอเลสเตอรอลกว่า 400 มก. ถ้ามีมากและนานทำให้หลอดเลือดแข็งตัว เสี่ยงต่อโรคหัวใจ , หลอดเลือดทางสมอง, มะเร็ง
6. ผักโขม ผักปวยเล้ง มีกรดออกซาเลตมาก ทำให้การขับสังกะสีและแคลเซียมออก จากร่างกายมาก เกิดภาวะขาดแคลน
7. บะหมี่สำเร็จรูป ทำให้ขาดสารอาหาร เกิดการสะสมสารพิษในร่างกาย
8. เมล็ดทานตะวัน มีส่วนประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัว กินมากทำให้มีการสะสม ไขมันที่ตับได้
9. เต้าหู้หมัก เต้าหู้ยี้ การหมักมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรค...และมีสารย่อย โปรตีนไฮโดรเจนซัลไฟล์ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
10. ผงชูรส ไม่ควรกินเกิน 6 กรัมต่อวัน จะทำให้กรดกลูตามิกในเลือดสูง ซึ่งมีผลต่อการทำงานของประจุแคลเซี่ยมและแมกนีเซียม ทำให้ปวดหัว ใจสั่น คลื่นไส้ และมีผลเสียต่ออวัยวะสืบพันธุ์ที่กล่าวมาเป็นภูมิปัญญาโบราณ ความเชื่อที่สืบทอดกันมา ปัจจุบันมีการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายมาก
โน้ส อุดมแต้พานิช
แบบอย่างความเท่ทั้งที ไม่มีคนนี้ได้อย่างไร โน้ส อุดม แต้พานิช คนที่เป็นมากกว่าผู้สร้างเสียงหัวเราะ เขาคือคนที่มีความเป็นศิลปินอยู่อย่างเต็มเปี่ยม อยากรู้จักเขามากกว่านี้ ต้องอ่าน...
คุณอุดม เป็นคนกลางจาก พี่น้อง 3 คน
ผลงาน มีละครเรื่องแรกชื่อ ความรักของมาลัยในห้องไอซียู ได้รับบทเป็นคนแก่ในโรงพยาบาล จบจากละครก็ก้าวเข้าสู่ถนนหนังสือ ในตำแหน่งฝ่ายศิลปของไปยาลใหญ่
'คุณอุดมพาความสามารถเข้าสู่เส้นทางสายบันเทิงโดยเริ่มจากเป็นตัวประกอบในรายการวิก 07 ของ เจเอสแอล และเล่นเกมรายการจุดเดือด ทางผู้ใหญ่ในเจเอสแอลประทับใจลีลา จึงชักชวนมาร่วมงานด้วยในรายการ ยุทธการขยับเหงือก ซึ่งเป็นรายการ Comedian Show ที่มีความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของช่อง 5 ในยุคนั้น จึงทำให้อุดมได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงอย่าง เต็มตัวในชื่อ เสนาฯ โน้ส '
แต่ความจดจำเก่าๆ ที่เกี่ยวกับตัวเขา ดูจางลงไปทันที เมื่อผลงานของเขาในตอนนี้ คือการเป็น เดี่ยวมือหนึ่งของสยามประเทศ เดี่ยวไมโครโฟน หรือ Stand Up Comedy
ผลงาน มีละครเรื่องแรกชื่อ ความรักของมาลัยในห้องไอซียู ได้รับบทเป็นคนแก่ในโรงพยาบาล จบจากละครก็ก้าวเข้าสู่ถนนหนังสือ ในตำแหน่งฝ่ายศิลปของไปยาลใหญ่
'คุณอุดมพาความสามารถเข้าสู่เส้นทางสายบันเทิงโดยเริ่มจากเป็นตัวประกอบในรายการวิก 07 ของ เจเอสแอล และเล่นเกมรายการจุดเดือด ทางผู้ใหญ่ในเจเอสแอลประทับใจลีลา จึงชักชวนมาร่วมงานด้วยในรายการ ยุทธการขยับเหงือก ซึ่งเป็นรายการ Comedian Show ที่มีความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของช่อง 5 ในยุคนั้น จึงทำให้อุดมได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงอย่าง เต็มตัวในชื่อ เสนาฯ โน้ส '
แต่ความจดจำเก่าๆ ที่เกี่ยวกับตัวเขา ดูจางลงไปทันที เมื่อผลงานของเขาในตอนนี้ คือการเป็น เดี่ยวมือหนึ่งของสยามประเทศ เดี่ยวไมโครโฟน หรือ Stand Up Comedy
ครั้งที่ 1 (เดี่ยวไมโครโฟน) 2538 เปิดการแสดงทั้งหมด 3 รอบ ทำการแสดงที่ หอประชุมเมืองไทยประกันชีวิต ความจุ 450 ที่นั่ง
ครั้งที่ 2 (อุดม โชว์ห่วย) 2539 เปิดการแสดงทั้งหมด 14 รอบ ทำการแสดงที่ หอประชุมเมืองไทยประกันชีวิต ความจุ 450 ที่นั่ง
ครั้งที่ 3 (อุดม การช่าง) 2540 เปิดการแสดงทั้งหมด 22 รอบ ทำการแสดงที่ อิมพีเรียล ลาดพร้าว
ครั้งที่ 4 (เดี่ยว 4) 2542 เปิดการแสดงทั้งหมด 28 รอบ ทำการแสดงที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ
ครั้งที่ 5 (ฉายเดี่ยว) 2544 เปิดการแสดงทั้งหมด 30 รอบ ทำการแสดงที่ โรงภาพยนตร์สกาล่า ความจุ 1,000 ที่นั่ง
ครั้งที่ 6 (ตูดหมึก) 2546 เปิดการแสดงทั้งหมด 43 รอบ ทำการแสดงที่ โรงภาพยนตร์สกาล่า ความจุ 1,000 ที่นั่ง ตูดหมึก คือครั้งที่ตราตรึงใจพี่มิ้งที่สุด ด้วยความฮาแบบต่อเนื่อง ทำให้รื้อมาดูอีกรอบ ก็ยังขำแบบสะใจๆ ได้อีก หลังจากห่างหายไปนาน คำสัญญา 5 ปีของ โน้ส อุดม ก็กลับมาพร้อมกับการเดี่ยว ครั้งที่ 7-7.5
ครั้งที่ 7 (เดี่ยว 7) 2551 เปิดการแสดงทั้งหมด 41 รอบ (ไทย 39 รอบ,ซิดนีย์ 2 รอบ) ทำการแสดงที่โรงภาพยนตร์สกาล่า ความจุ 1,000 ที่นั่ง ครั้งที่ 7.5 (เชียงใหม่ม่วนขนาด) 2551 เปิดการแสดงทั้งหมด 3 รอบ ทำการแสดงที่ กาดสวนแก้ว เชียงใหม่ ความจุ 2,000 ที่นั่ง
มนุษย์ที่สร้างเสียงหัวเราะได้ตลอด ผู้มีความสามารถพิเศษ ที่สามารถดึงอารมณ์คนดูนับพัน ให้มีความรู้สึกคล้อยตาม อย่างขำขันไปโดยไม่รู้ตัว เรื่องราวของ ความจริงแสนธรรมดาในชีวิตเรา ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อผ่านสมอง แปรเปลี่ยนเป็นคำพูดผสมด้วยท่าทาง จะกลายเป็นเรื่องตลกชนิดฮากระจาย คุณอุดมได้ชื่อว่าเป็นศิลปินแบบเต็มตัว เพราะเขามีผลงานศิลปะที่ขายทำเงินได้ด้วยนะ พี่มิ้งคิดว่า ความสุขคงไม่ได้อยู่เมื่อมันถูกขายไป แต่ความสุขคือได้ทำสิ่งที่เรารัก แล้วมีคนเห็นคุณค่าของมัน และใช้การแลกเงิน แทนคำชื่นชมมากกว่า
งานเขียนเป็นอีกผลงานที่พวกเราไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับ คุณอุดม ทั้งที่เขาได้ชื่อว่า เป็นคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเขียน (Best Seller) ปัจจุบันนี้หนังสือของ อุดม แต้พานิช มีถึง 20 เล่ม
โทษฐานที่รู้จักกัน (พิมพ์ซ้ำ 33 ครั้ง)
โทษฐานที่รู้จักกัน (พิมพ์ซ้ำ 33 ครั้ง)
เดี่ยวไมโครโฟน 1 (พิมพ์ซ้ำ 11 ครั้ง)
หนังสือโป๊ (พิมพ์ซ้ำ 28 ครั้ง)
เดี่ยวไมโครโฟนโชว์ห่วย (พิมพ์ซ้ำ 12 ครั้ง)
โน้ตบุ๊ค (พิมพ์ซ้ำ 7 ครั้ง)
รวมมิตรแต้พานิช (พิมพ์ซ้ำ 21 ครั้ง)
ก้นกล่อง (พิมพ์ซ้ำ 5 ครั้ง)
เดี่ยว 4 (พิมพ์ซ้ำ 12 ครั้ง)
GU 1 (Garbage of Udom) (พิมพ์ซ้ำ 5 ครั้ง)
GU 2 (Garbage of Udom) (พิมพ์ซ้ำ 5 ครั้ง)
GU 3 (Garbage of Udom) (พิมพ์ซ้ำ 5 ครั้ง)
GU 123 (Garbage of Udom) (พิมพ์ซ้ำ 10 ครั้ง)
ฉายเดี่ยว (พิมพ์ซ้ำ 3 ครั้ง)
หนังสือโป๊xxx (ฉบับญี่ปุ่น)
ISBN 9742725543 (พิมพ์ซ้ำ 3 ครั้ง)
I don’t know (พิมพ์ซ้ำ 1 ครั้ง)
a dom นิตยสารแนวล้อเลียนเล่มแรกของเมืองไทย (พิมพ์ซ้ำ 3 ครั้ง)
ตูดหมึก (พิมพ์ซ้ำ 3 ครั้ง)
GU 123 (ฉบับญี่ปุ่น)
ISBN 9749340043 (พิมพ์ซ้ำ 3 ครั้ง)
a dom 2 (พิมพ์ซ้ำ 8 ครั้ง)
Domcumentary ในอีกมุมมองหนึ่งของชีวิตที่หลายคนอาจยังไม่รู้ อุดม ในฐานะของนักวาด และการประดิษฐ์สิ่งของที่คนอื่นอาจมองว่าเป็นขยะแต่กลับเป็นเรื่องท้าทายของเขาที่จะชุบขยะเหล่านั้นให้มีชีวิตจนเกิดเป็นผลงานศิลปะอันสวยงาม หนังสือเล่มนี้จึงรวบรวมผลงานหลากหลายของอุดมที่ชีวิตไม่ได้มีแต่ตลกด้านเดียว
ความกล้าคิด กล้าทำ กล้าแปลก ของคุณอุดม สร้างผลงานและการแสดงที่เราเห็นครั้งแรก ชิ้นงานที่มีความเป็นตัวเองอย่างโดดเด่น เหมือนลายเซ็นที่ถูกตวัดอย่างสวยงาม ที่ยากใครจะลอกเลียน พี่มิ้งยังเห็นความคิดสร้างสรรค์ ที่คุณอุดมสร้างขึ้นในผลงานของเขาทุกชิ้น มุมมองที่มองทุกเรื่องออกมาตลก คือความรู้สึกแง่ดี ที่จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขอย่างง่ายดาย (แม้จะเป็นเรื่องเครียดๆ อย่าง การเมือง ยังฮา ก็ไม่รู้ว่าเรื่องไหนจะเครียดแล้วล่ะ)
แบบอย่างความเท่ โน้ส อุดม แต้พานิช
ชื่อเล่น โน้ส เกิด 1 กันยายนจังหวัด ชลบุรี อาชีพ นักแสดง นักเขียน comadian สร้างงานศิลปะ
แบบอย่างความเท่ โน้ส อุดม แต้พานิช
ชื่อเล่น โน้ส เกิด 1 กันยายนจังหวัด ชลบุรี อาชีพ นักแสดง นักเขียน comadian สร้างงานศิลปะ
วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552
---10 ขนมอันตราย ---
อันตรายจากอาหารขบเคี้ยว ข้อมูลจากการสำรวจ ของราชพฤกษ์โพล คณะสาธารณะสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเก็บตัวอย่างจากขนมหลายประเภท จากโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษา จำนวน 40 โรงเรียน ในพื้นที่17 เขตของกรุงเทพมหานคร พบว่าภัยร้ายที่แฝงอยู่ในขนมเด็ก โดยเฉพาะสารตะกั่วซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย ขณะเดียวกันก็ยังพบสารอันตรายอื่นๆ โดยเฉพาะเกลือโซเดียมในปริมาณมากน้อยต่างกันไป ซึ่งหากบริโภค มากจนตกค้างสะสมในร่างกาย อาจมีผลให้เส้นเลือดในสมองโป่งพองได้ 10 อันดับขนมขบเคี้ยวประเภทข้าว แป้ง ที่พบปริมาณโซเดียมสูงสุดดังนี้
1. ข้าวเกรียบปลาหมึก ตราอาริงาโตป้ง
2. ขนมทอดกรอบตราปูไทย ซองส้มเข้มป้ง
3. ข้าวเกรียบทอด ตราเอสบี รสพริกหยวกี่
4. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราฮานามิ รสเม็กซิกันชิลลี่ษ
5. แป้งมันฝรั่งทอดกรอบ ตราโรลเลอร์ โคสเตอร์ รสหัวหอมทรงเครื่อง
6. แป้งข้าวโพดอบกรอบ ตราโจโต้ รสปลาหมึก
7. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราคาลบี้ รสต้มยำรสแซบ
8. ข้าวเกรียบปลา ตรามโนห์รา
9. ข้าวเกรียบกุ้ง ตรามโนห์รา
10. ข้าวเกรียบรสมะเขือเทศ
1. ข้าวเกรียบปลาหมึก ตราอาริงาโตป้ง
2. ขนมทอดกรอบตราปูไทย ซองส้มเข้มป้ง
3. ข้าวเกรียบทอด ตราเอสบี รสพริกหยวกี่
4. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราฮานามิ รสเม็กซิกันชิลลี่ษ
5. แป้งมันฝรั่งทอดกรอบ ตราโรลเลอร์ โคสเตอร์ รสหัวหอมทรงเครื่อง
6. แป้งข้าวโพดอบกรอบ ตราโจโต้ รสปลาหมึก
7. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราคาลบี้ รสต้มยำรสแซบ
8. ข้าวเกรียบปลา ตรามโนห์รา
9. ข้าวเกรียบกุ้ง ตรามโนห์รา
10. ข้าวเกรียบรสมะเขือเทศ
กินไข่วันละกี่ฟองถึงจะพอดี
1. ทำไมไข่ทุกฟองไม่ฟักเป็นตัวไข่ที่ผลิตแต่ละฟองจะถูกปล่อยออกมาตามท่อรังไข่อย่างสม่ำเสมอ และแม่ไก่ก็พร้อมจะวางไข่กระบวนการนี้จะดำเนินไปตลอด ไม่ว่าไข่จะมีการปฏิสนธิหรือไม่ก็ตาม นั่นคือเหตุผลที่ไข่ไก่ทุกฟองไม่ฟักเป็นตัว
2. ไข่สุก-ไข่ดิบ อะไรมีประโยชน์กว่ากันเราไม่ควรกินไข่ดิบ เพราะในไข่ดิบอาจจะมีเชื้อโรค และไข่ขาวดิบยังย่อยยากอีกด้วย หากเรากินไข่ขาวดิบเข้าไป มันจะผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้ไปโดยไม่ได้ย่อย ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆ ได้ หากจะกินไข่ลวกควรลวกให้ไข่ขาวสุกเสียก่อน
3. ช่องวางไข่ในตู้เย็น ทำอายุไข่สั้นเปลือกไข่มีลักษณะเป็นรูพรุนตลอดทั้งฟอง รูที่เปลือกมีขนาดเล็กมากเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ผิวไข่ที่เราเห็นจึงดูเรียบเนียน และเพราะเปลือกมีรูพรุนทำให้ไข่สามารถดูดซึมกลิ่นต่างๆ ได้ง่าย จึงไม่นิยมเก็บไข่ไว้กับอาหารที่มีกลิ่นฉุน อย่างกะปิ น้ำปลา การเก็บไข่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นจะเหมาะกว่าเก็บที่อุณหภูมิปกติ และควรใส่ในภาชนะแล้ววางไว้บนชั้นวางธรรมดาดีกว่าใส่ในช่องวางไข่ที่ฝาผนังตู้เย็นซึ่งจะมีอุณหภูมิที่สูงทำให้ไข่เสียเร็วกว่าที่ควร
4. เก็บไข่ควรนำด้านแหลมลงการวางไข่โดยเอาด้านแหลมลงและให้ด้านป้านอยู่บน ไข่แดงที่มีน้ำหนักเบากว่าไข่ขาว แม้จะพยายามลอยตัวขึ้นบนแต่ก็จะปะทะกับโพรงอากาศที่อยู่ทางด้านป้านไม่ปะทะกับเปลือกไข่ ไข่แดงจึงอยู่กลางใบหากเราเปลี่ยนเอาทางด้านป้านลงไข่แดงจะลอยขึ้นไปติดที่เปลือกไข่ทำให้ไข่แดงแตกง่ายเวลาตอก การเก็บไข่จึงควรนำด้านแหลมลงทุกครั้ง
5. ไข่ไม่ได้เป็นแค่อาหารไข่ขาว นำมาทำเป็นส่วนประกอบของยางบางชนิด ทำสีทาสิ่งของ ทำกาว ทำหมึกพิมพ์ ช่วยย้อมหนัง กำจัดสิวเสี้ยนไข่แดง ทำสบู่ สี แชมพู ตกแต่งหนังสัตว์ บำรุงผิวเปลือกไข่ ทำอาหารสัตว์ ปุ๋ย และนำไปทำสิ่งประดิษฐ์ได้อีกหลายสิบอย่าง
ไข่ฟองกลมๆ จะช่วยรักษารูปร่างคุณให้ดี หรือส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณกันแน่ มีคําตอบมาให้แล้ว
การไม่ทานไข่ อาจส่งผลเสียต่อเส้นประสาทสมองได้ ไข่ฟองเล็กๆ หนึ่งฟอง มีปริมาณวิตามินบี 12ซึ่งจําเป็นต่อการสร้างเยื่อหุ้มป้องกันเส้นใยประสาท
นอกจากนี้ไข่ยังดีต่อสายตาคุณ โดยเมื่อไม่นานมานี้มีผลการศึกษาจากอเมริกาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Nutrition ได้ค้นพบว่า การทานไข่อย่างน้อย 3 ฟองต่อสัปดาห์จะช่วยป้องกันภาวะสูญเสียสายตาที่มักเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นได้ เพราะสารลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารรงควัตถุในตระกูลแคโรทีนอยด์ในไข่แดงจะช่วยบํารุงจอประสาทตานั่นเอง
"ไข่เจียว" ถือเป็นยาบํารุงร่างกายได้เลย เพราะนอก จากไข่จะช่วยให้ร่างกายคุณดูดซึมแคลเซียมได้ดีแล้ว ยังช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน แถมปริมาณ สารซีลีเนียมและวิตามินอีในไข่ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณมีหุ่นกลมเป็นไข่อีกด้วย
ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยหลุยส์เซียนาสเตท พบว่า คนที่ทานมื้อเช้าโดยมีไข่เป็นส่วนประกอบ จะลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ไม่ทานไข่ในมื้อเช้าได้ถึง65 เปอร์เซ็นต์ เมื่อบริโภคแคลอรี่ในปริมาณที่เท่ากัน
ตามรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Clinical Nutrution ไข่ที่ให้ผลดีต่อร่างกาย อาจส่งผลร้าย ได้เหมือนกัน ถ้าคุณทานมากกว่า 1 ฟองต่อวัน ติดกันทุกวัน แต่ขณะที่การทานไข่สูงสุด 6 ฟองต่อสัปดาห์ไม่ได้ ทําให้มีอันตรายถึงชีวิต
ในทางตรงกันข้ามการทานไข่ 7 ฟองหรือมากกว่านั้นภายใน 1 สัปดาห์ จะไปเพิ่มปัจจัย เสี่ยงที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ 23 เปอร์เซ็นต์
2. ไข่สุก-ไข่ดิบ อะไรมีประโยชน์กว่ากันเราไม่ควรกินไข่ดิบ เพราะในไข่ดิบอาจจะมีเชื้อโรค และไข่ขาวดิบยังย่อยยากอีกด้วย หากเรากินไข่ขาวดิบเข้าไป มันจะผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้ไปโดยไม่ได้ย่อย ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆ ได้ หากจะกินไข่ลวกควรลวกให้ไข่ขาวสุกเสียก่อน
3. ช่องวางไข่ในตู้เย็น ทำอายุไข่สั้นเปลือกไข่มีลักษณะเป็นรูพรุนตลอดทั้งฟอง รูที่เปลือกมีขนาดเล็กมากเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ผิวไข่ที่เราเห็นจึงดูเรียบเนียน และเพราะเปลือกมีรูพรุนทำให้ไข่สามารถดูดซึมกลิ่นต่างๆ ได้ง่าย จึงไม่นิยมเก็บไข่ไว้กับอาหารที่มีกลิ่นฉุน อย่างกะปิ น้ำปลา การเก็บไข่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นจะเหมาะกว่าเก็บที่อุณหภูมิปกติ และควรใส่ในภาชนะแล้ววางไว้บนชั้นวางธรรมดาดีกว่าใส่ในช่องวางไข่ที่ฝาผนังตู้เย็นซึ่งจะมีอุณหภูมิที่สูงทำให้ไข่เสียเร็วกว่าที่ควร
4. เก็บไข่ควรนำด้านแหลมลงการวางไข่โดยเอาด้านแหลมลงและให้ด้านป้านอยู่บน ไข่แดงที่มีน้ำหนักเบากว่าไข่ขาว แม้จะพยายามลอยตัวขึ้นบนแต่ก็จะปะทะกับโพรงอากาศที่อยู่ทางด้านป้านไม่ปะทะกับเปลือกไข่ ไข่แดงจึงอยู่กลางใบหากเราเปลี่ยนเอาทางด้านป้านลงไข่แดงจะลอยขึ้นไปติดที่เปลือกไข่ทำให้ไข่แดงแตกง่ายเวลาตอก การเก็บไข่จึงควรนำด้านแหลมลงทุกครั้ง
5. ไข่ไม่ได้เป็นแค่อาหารไข่ขาว นำมาทำเป็นส่วนประกอบของยางบางชนิด ทำสีทาสิ่งของ ทำกาว ทำหมึกพิมพ์ ช่วยย้อมหนัง กำจัดสิวเสี้ยนไข่แดง ทำสบู่ สี แชมพู ตกแต่งหนังสัตว์ บำรุงผิวเปลือกไข่ ทำอาหารสัตว์ ปุ๋ย และนำไปทำสิ่งประดิษฐ์ได้อีกหลายสิบอย่าง
ไข่ฟองกลมๆ จะช่วยรักษารูปร่างคุณให้ดี หรือส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณกันแน่ มีคําตอบมาให้แล้ว
การไม่ทานไข่ อาจส่งผลเสียต่อเส้นประสาทสมองได้ ไข่ฟองเล็กๆ หนึ่งฟอง มีปริมาณวิตามินบี 12ซึ่งจําเป็นต่อการสร้างเยื่อหุ้มป้องกันเส้นใยประสาท
นอกจากนี้ไข่ยังดีต่อสายตาคุณ โดยเมื่อไม่นานมานี้มีผลการศึกษาจากอเมริกาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Nutrition ได้ค้นพบว่า การทานไข่อย่างน้อย 3 ฟองต่อสัปดาห์จะช่วยป้องกันภาวะสูญเสียสายตาที่มักเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นได้ เพราะสารลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารรงควัตถุในตระกูลแคโรทีนอยด์ในไข่แดงจะช่วยบํารุงจอประสาทตานั่นเอง
"ไข่เจียว" ถือเป็นยาบํารุงร่างกายได้เลย เพราะนอก จากไข่จะช่วยให้ร่างกายคุณดูดซึมแคลเซียมได้ดีแล้ว ยังช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน แถมปริมาณ สารซีลีเนียมและวิตามินอีในไข่ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณมีหุ่นกลมเป็นไข่อีกด้วย
ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยหลุยส์เซียนาสเตท พบว่า คนที่ทานมื้อเช้าโดยมีไข่เป็นส่วนประกอบ จะลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ไม่ทานไข่ในมื้อเช้าได้ถึง65 เปอร์เซ็นต์ เมื่อบริโภคแคลอรี่ในปริมาณที่เท่ากัน
ตามรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Clinical Nutrution ไข่ที่ให้ผลดีต่อร่างกาย อาจส่งผลร้าย ได้เหมือนกัน ถ้าคุณทานมากกว่า 1 ฟองต่อวัน ติดกันทุกวัน แต่ขณะที่การทานไข่สูงสุด 6 ฟองต่อสัปดาห์ไม่ได้ ทําให้มีอันตรายถึงชีวิต
ในทางตรงกันข้ามการทานไข่ 7 ฟองหรือมากกว่านั้นภายใน 1 สัปดาห์ จะไปเพิ่มปัจจัย เสี่ยงที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ 23 เปอร์เซ็นต์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)